Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 

                                                                                         วรเทพ ไวทยาวิโรจน์

             จากสภาพเศรษฐกิจของไทยนับจากปลายปี 2549 มีแนวโน้มถดถอยเรื่อยมาจนถึง  ณ ปัจจุบัน ซึ่งภาวะถดถอยเช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาวะโดยรวมของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาการเกษตร  ภาคอุตสาหกรรม  ภาคทางการเงิน  การลงทุน ซึ่งหากพิจารณาถึงปัจจัยและเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นที่ส่งผลให้เกิดภาวะถดถอยเช่นนี้ คงจะหลีกหนีไม่พ้นภาวะที่ไม่มีความมั่นคงทางการเมืองที่ยังไม่มีความแน่นอน  อีกทั้งความไม่สงบทางภาคใต้ โดยมองได้ว่าเป็นเหตุปัจจัยจากภายในประเทศ   รวมถึงความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจโลก   ไม่ว่าจะเป็นด้าน ราคาน้ำมันที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา    อัตราดอกเบี้ย    อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่าง-ประเทศ    ที่ตอนนี้เงินบาทมีอัตราที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ รวมถึงเงินสกุลอื่นๆ และมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นส่งผล กระทบศักยภาพต่อภาคการส่งออกของไทย  ทำให้สินค้าการเกษตรมีแนวโน้มการส่งออกที่ลดลง การบริโภคภายในประเทศ การลงทุนรวม รวมทั้งค่า GDP ลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้  ทำให้ภาครัฐมีการออกมาตรการเพื่อกระตุ้นให้ภาวะเศรษฐกิจไม่ให้ตกต่ำไปกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการชะลอการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม การปรับลดอัตราดอกเบี้ย การควบคุม ราคาสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค การควบคุมค่าอุปโภค-บริโภคต่างๆ การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ การปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการ ผลักดันแผนการส่งออกที่ส่งผลดีต่อผู้ส่งออกออกมาตรการทางด้านการเงิน การลงทุน   อีกทั้งมีการร่วมมือของสถาบันทางการเงินในการ พยายามหาทางช่วยเหลือให้ผ่านพ้นภาวะทางเศรษฐกิจ   ซึ่งหากมองสถานะทางการเงินของประชาชนในภาคครัวเรือนแล้ว จะเห็นได้ว่าการใช้จ่ายต่อครัวเรือนมีแนวโน้มปรับลดลงไม่ว่าจะพิจารณาจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ลดลง  จำนวนเงินฝากที่น้อยลง และการเพิ่มขึ้นของหนี้สิน   จากเหตุดังกล่าวข้างต้น   อาจกล่าวได้ว่าผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจมีผลโดยตรงต่อการบริโภค การเก็บออม ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนโดยตรง ทั้งที่เป็นภาคเอกชนและข้าราชการ  โดยบุคคลกลุ่มหนึ่งมีภาระผูกพันโดยตรงกับสหกรณ์ออมทรัพย์ เมื่อบุคคลที่มีภาระต่อสหกรณ์ฯ มีผลกระทบทางด้านการเงิน    ย่อมหลีกหนีไม่พ้นที่จะมีผลกระทบต่อสหกรณ์ออมทรัพย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม   ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการใช้หนี้ การออม  การเพิ่มทุนที่มีแนวโน้มลดลง ภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น   ความเสี่ยงของตัวสหกรณ์  หนี้ค้างชำระเพิ่มขึ้น สินทรัพย์หมุนเวียน เงินปันผล  เงินเฉลี่ยคืนที่ลดลงด้วยสภาพที่สหกรณ์ต้องเผชิญในปัจจุบัน  ดังนั้น สหกรณ์จะต้องหาทางออกเพื่อให้คงสถานะให้เป็นสถาบันที่พึ่งทางเศรษฐกิจของสมาชิก  โดยการนำกลยุทธ์มาใช้กับสภาวการณ์ที่เป็นอยู่ ได้แก่
 
การกอบกู้อุดมการณ์สหกรณ์ที่สำคัญ 4 ประการ คือ
 

               เศรษฐกิจพอเพียง โดยสหกรณ์ต้องพลิกผันตนเองให้บริหารสมาชิกอยู่ในกรอบแห่งวิสัยที่มีความพอดีและพอเพียงต่อการดำเนินชีวิต ทั้งทางด้านการใช้ไม่ว่าจะทางด้านการเงิน  อุปกรณ์์  เวลา คน ให้มีการบริโภคที่พอเพียง  ทั้งในด้านของปริมาณคุณภาพ คุณธรรม  รู้จัประมาณตน  มีเหตุ  มีผล  รู้ถึงสถานการณ์   มีความรู้ในการแยกแยะสภาพ สภาพแวดล้อม สถานการณ์ นโยบายต่างๆ หรือหลักเกณฑ์ อีกทั้งสร้างภูมิคุ้มกันให้มีความมั่นคงและยั่งยืน  มีเงินสำรอง  มีเงินสะสม  มีพันธบัตร และวางระบบงานที่ดี

               การพึ่งพาตนเอง ควรพยายามใช้ทุนดำเนินงานของตนเอง ควรมีการสะสมความรู้ประสบการณ์ในภาคเศรษฐกิจและการบริหารอื่นๆ     สามารถดำเนินและปฏิบัติด้วยตนเองโดยไม่พึ่งพิงหรือพึ่งพาบุคคลอื่น หรืออ้างอิงกับหน่วยงานอื่นๆ ควรมีบรรทัดฐานของตนเอง ไม่โน้มเอียงไปกับข่าวลือต่างๆ ที่จะนำสหกรณ์ไปสู่ความสับสน

               การออมทรัพย์ ควรมีมาตรการในการกระตุ้นให้สมาชิกมีการเก็บออมที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของหุ้น เงินฝาก โดยสหกรณ์ต้องพิจารณาทบทวนนโยบายให้ทันการณ์กับภาวะปัจจุบันอยู่เสมอ สร้างแรงจูงใจให้สมาชิกออมเงินอย่างสม่ำเสมอ

               การกำกับหนี้สิน สมาชิกควรรู้จักควบคุมหนี้สินของตนเองให้ได้ ซึ่งมีอยู่หลายวิธี  ได้แก่   โดยวิธีทางธรรมชาติซึ่งเป็นการชำระหนี้และสะสมหุ้นให้มีความสมดุลกัน
วิธีการกู้ส่วนต่างซึ่งเป็นการกู้เงินรอบใหม่ให้น้อยกว่ามูลหนี้เดิมจะส่งผลให้หนี้โดยรวมลดลงไปเรื่อยๆ  วิธีกำกับการกู้เงินซึ่งเป็นการควบคุมไม่ให้เกิดสภาวะการเสียสมดุลของหลักความมั่นคงเดิม  เช่น  กู้เงินสัดส่วนของหุ้นกับหนี้มีอัตราลดลงหรือไม่  การกู้เงินต้องไม่กระทบต่อรายได้ส่วนใหญ่  สะสมหุ้นให้มีมากกว่าหนี้อย่างสม่ำเสมอ   พยายามกู้แค่จำเป็นต่อการใช้หรือกู้เพื่อสร้างสินทรัพย์
 
บทส่งท้าย       
             สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจทุกวันนี้ เป็นเครื่องชี้ให้เราต้องตระหนักว่าสภาวการณ์ มิได้อยู่ในสภาพปกติแล้ว เราจึงควรที่จะมีกลยุทธ์ในการดูแลกำกับการให้สามารถดำรงตนอยู่ได้โดยไม่ถูกกระทบกระเทือนหรือหากเดือดร้อนก็น้อยที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องสังเกต และรู้เท่าทันเหตุการณ์ โดยศึกษาจากการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปหรือจะได้สามารถเรียนรู้เข้าใจ อีกทั้งสามารถหามาตรการปกป้องตัวเราให้ได้เป็นผลดี หนทางที่แยบยลก็คือยึดหลักและอุดมการณ์สหกรณ์เป็นครรลองชีวิต   ในเวลาเดียวกันก็ต้องปรับตัวและสร้างภูมิคุ้มกันด้วยเหตุด้วยผล  หนทางสหกรณ์เป็นหนทางที่สะอาด  เป็นธรรม และสามารถเป็นที่พึ่งอันประเสริฐได้อย่างแท้จริง  เพียงแต่เราสามารถคัดสรรวิธีอันมีประโยชน์ตรงต่อตัวเรามาประยุกต์ให้ใช้ได้อย่างเหมาะสมเพียงใดเท่านั้น     หากเราเข้าใจในวิถีแห่งสหกรณ์และนำแนวทางมาใช้ได้อย่างถูกต้องแล้ว  เราจะสามารถดำรงตนได้อย่างมีความสมบูรณ์พูนสุขเป็นแน่นอน  
 

 

ข่าว/บทความยอดนิยม ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด ข่าว/บทความล่าสุด
Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร
“ขนิษฐา มะโนสมบัติ”ครูบัญชีอาสา จังหวัดเชียงรายใช้ศาสตร์พระราชานำทางชีวิต พลิกวิกฤตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
มิติทางการเงินที่มีผลต่อหนี้สินของสหกรณ์ประมงในประเทศไทย
สหกรณ์ไทย ...คืนกำไรสู่สมาชิก 80.52 %
รายงานภาวะเศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทยไตรมาส 4/2555
ครัวเรือนภาคสหกรณ์ออมเงินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 12.34%
สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์
จำนวนคนอ่าน 6702 คน จำนวนคนโหวต 8 คน

  จำนวนคนโหวต 8 คน
โหวตคะแนนให้ข่าว/บทความนี้
1 2 3 4 5

  ระดับ 

  ให้ 1 คะแนน
0%
  ให้ 2 คะแนน
 
25%
  ให้ 3 คะแนน
 
25%
  ให้ 4 คะแนน
0%
  ให้ 5 คะแนน
 
50%
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel