1) ธุรกิจให้เงินกู้ยืม (สินเชื่อ) ขยายตัวร้อยละ 0.72 ชะลอลงจากไตรมาสที่แล้ว ที่ขยายตัวร้อยละ 1.50 นับเป็นธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการดำรงชีพของมวลสมาชิกสหกรณ์ใช้บริการค่อนข้างสูงถึง 62% ของมูลค่าธุรกิจรวมทั้งสิ้น มีมูลค่าการให้สินเชื่อรวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านล้านบาทต่อปี เฉลี่ยตกเดือนละกว่า 1 แสนล้านบาทต่อเดือน หรือคิดเฉลี่ยตกครัวเรือนละ 1 แสนบาทต่อครัวเรือน แบ่งเป็นสินเชื่อนอกภาคเกษตรมีปริมาณการให้สินเชื่อสูงสุดเท่ากับ 1.1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 93% ของยอดเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น โดยมีหนี้สินเฉลี่ยตกครัวเรือนละ 2.5 แสนบาทต่อครัวเรือน ขณะที่ยอดการให้สินเชื่อในภาคเกษตร มีเพียง 8.1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 7% ของยอดสินเชื่อรวมทั้งสิ้น และมีหนี้สินเฉลี่ยตกครัวเรือนละ 1.4 หมื่นบาทต่อครัวเรือน
2) ธุรกิจรับฝากเงิน ขยายตัวร้อยละ 2.13 ชะลอลงจากไตรมาสที่แล้ว ที่ขยายตัวร้อยละ 3.19 เป็นธุรกิจที่มี ความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ซึ่งขยายตัวมากกว่าธุรกิจสินเชื่อถึง 2.6 เท่าตัว ในรอบปีมียอดเงินรับฝากคิดเป็นมูลค่ารวม 5.5 แสนล้านบาท หรือคิดเฉลี่ยตกเดือนละ 4.6 หมื่นล้านบาทต่อเดือน แบ่งเป็นยอดเงินรับฝากนอกภาคเกษตร มีปริมาณสูงสุดเท่ากับ 4.8 แสนล้านบาท คิดเป็น 86% ของยอดเงินรับฝากทั้งสิ้น โดยมีเงินออมเฉลี่ยตกครัวเรือนละ 2.9 แสนบาทต่อครัวเรือน ส่วนภาคเกษตร มียอดเงินรับฝากเพียง 7.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 14% และมีเงินออมเฉลี่ยตกครัวเรือนละ 2 หมื่นบาทต่อครัวเรือน
3) ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ขยายตัวร้อยละ 0.33 ชะลอลงจากไตรมาสที่แล้ว ที่ขยายตัวร้อยละ 8.42 มียอดมูลค่าการจัดหาสินค้ามาจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 8.3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเฉลี่ยตกเดือนละ 6.9 พันล้านบาทต่อเดือน โดยภาคเกษตร มียอดการจัดหาสินค้ามาจำหน่ายสูงสุดเท่ากับ 7.1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 86% ของยอดเงินจัดหาสินค้ามาจำหน่ายทั้งระบบ ขณะที่นอกภาคเกษตรมีจำนวนเท่ากับ 1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 13%
4) ธุรกิจรวบรวม/แปรรูปผลิตผล หดตัวร้อยละ 3.89 น้อยลงจากไตรมาสที่แล้ว ที่หดตัวร้อยละ 8.35 เนื่องจากเป็นผลพวงนโยบายโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ส่งผลให้ธุรกิจด้านนี้มีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าการรวบรวม/แปรรูปทั้งสิ้น 1.2 แสนล้านบาท หรือคิดเฉลี่ยตกเดือนละ 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน โดยในภาคเกษตรมีปริมาณการรวบรวม/แปรรูปผลิตผลสูงสุดเท่ากับ 1.1 แสนล้านบาท คิดเป็น 90% ของยอดเงินรวบรวม/แปรรูปทั้งระบบ และนอกภาคเกษตรมีจำนวนเท่ากับ 2.9 พันล้านบาท คิดเป็น 2%
5) ธุรกิจการให้บริการและส่งเสริมการเกษตร หดตัวร้อยละ 2.06 จากไตรมาสที่แล้ว ที่ขยายตัวร้อยละ 10.97 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1.8 พันล้านบาท หรือคิดเฉลี่ยตกเดือนละ 154 ล้านบาท โดยนอกภาคเกษตรมีปริมาณการให้บริการสูงสุดเท่ากับ 1.2 พันล้านบาท คิดเป็น 66% ของยอดเงินให้บริการทั้งระบบ ขณะที่ในภาคเกษตรมีจำนวนเท่ากับ 588 ล้านบาท คิดเป็น 32%
บทสรุปภาวะเศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทยไตรมาสที่ 3/2556 โดยภาพรวมเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย จากไตรมาสที่แล้ว มีกำไรทุกกลุ่มทั้งในภาคเกษตรและนอกภาคเกษตร กำไรโดยรวมขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.50% จากไตรมาสที่ 2 โดยมียอดกำไรรวมทั้งสิ้น 62,693 ล้านบาท นอกภาคเกษตรทำกำไรสูงสุด 57,290 ล้านบาท คิดเป็น 91% ของกำไรสุทธิทั้งระบบ (เกษตร 4,952 ลบ., ประมง 27ลบ., นิคม 240ลบ. ร้านค้า 227 ลบ., บริการ 400 ลบ., ออมทรัพย์ 54,979 ลบ., เครดิตยูเนี่ยน 1,684 ลบ., กลุ่มเกษตรกร 184 ลบ.) รายได้หดตัวลง 1.26% จากไตรมาสที่แล้ว ส่วนค่าใช้จ่าย 2.7 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 81.40 ของรายได้รวมทั้งสิ้น หดตัวลงเช่นเดียวกัน 1.65% หนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนหดตัวลง 12.10% จากไตรมาสที่แล้ว ตกครัวเรือนละ 1.1 แสนบาทต่อครัวเรือน ขณะที่เงินออมเฉลี่ยต่อครัวเรือน ขยายตัว 16.28 % จากไตรมาสที่แล้ว ตกครัวเรือนละ 1 แสนบาทต่อครัวเรือน ดังนั้นสหกรณ์ควรที่จะหามาตรการในการลดหรือประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นบางตัวลงเพื่อคงสภาพที่ดีของสหกรณ์ และเพื่อเพิ่มกำไรมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สหกรณ์ต้องไม่ละทิ้งหลักการ อุดมการณ์ และวิธีการสหกรณ์ ในการช่วยเหลือ พึ่งพา และเอื้ออาทรต่อกันในหมู่คณะ ที่สำคัญต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยการนำหลัก "ธรรมาภิบาล และหลัก "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในการดำเนินกิจการของสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
สำหรับแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทยในภาพรวมทั้งปี 2556 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น จากปี 2555 อยู่ในช่วงร้อยละ 0.5-1.5 โดยปรับตัวลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้เดิม ณ เดือนกันยายน 2556 เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศอ่อนแอเป็นเรื่องที่น่ากังวล ทั้งสถานการณ์ภัยธรรมชาติ ปัญหาน้ำท่วมในบางพื้นที่ของประเทศในช่วงปลายปี 2556 และสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่คลี่คลายเป็นปกติ ประกอบกับการชะลอตัวของการบริโภคของภาคสหกรณ์ไทย ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจภาคสหกรณ์ไทย
|