ด้านสมาชิกสหกรณ์ มีเงินออมเฉลี่ย 126,923 บาทต่อคน (ลดลง 2.49%) และมีหนี้สินเฉลี่ย 141,100 บาทต่อคน (ลดลง 3.05%) โดยสมาชิกภาคการเกษตรมีเงินออมเฉลี่ย 16,124 บาทต่อคน ขณะที่มีหนี้เงินกู้ยืมเฉลี่ย 22,470 บาทต่อคน (หนี้สินเฉลี่ยคิดเป็น 1.39 เท่าของเงินออมเฉลี่ย) ส่วนนอกภาคการเกษตรมีเงินออมเฉลี่ย 295,460 บาทต่อคน และมีหนี้เงินกู้ยืมเฉลี่ย 322,310 บาทต่อคน (หนี้สินเฉลี่ยคิดเป็น 1.09 เท่าของเงินออมเฉลี่ย) ส่วนกลุ่มเกษตรกรมีเงินออมเฉลี่ย 1,101 บาทต่อคน และมีหนี้เงินกู้ยืมเฉลี่ย 2,201 บาทต่อคน โดยหนี้สินเฉลี่ยคิดเป็น 2 เท่าของเงินออมเฉลี่ย อย่างไรก็ตาม ควรเสริมสร้างสมาชิกให้มีวินัยทางการเงินด้วยการวางแผนการใช้จ่ายในครัวเรือน มีการจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายในครัวเรือนเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้สมาชิกมีเงินเหลือออมเพิ่มขึ้น และสามารถชำระหนี้สินคืนให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรต่อไป
1. กลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตร (เกษตร/ประมง/นิคม) จำนวน 3,848 แห่ง สมาชิก 6.73 ล้านคนเศษ "ธุรกิจขยายตัวเล็กน้อยร้อยละ 0.33 จากไตรมาสแรกที่ผ่านมา ปัจจัยบวกมาจากธุรกิจการให้เงินกู้ยืมและธุรกิจการรับฝากเงิน กำไรเพิ่มขึ้น ส่วนสมาชิกมีอัตราการก่อหนี้สินเฉลี่ยมากกว่าการออมเงินเฉลี่ย
ภาคการเกษตร มีทุนกว่า 2.32 แสนล้านบาท มีธุรกิจลงทุน 5 ธุรกิจ มีมูลค่ารวม 3.25 แสนล้านบาทเศษ ขยายตัวร้อยละ 0.33 เทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่า ธุรกิจการให้เงินกู้ยืมมากสุด 9.12 หมื่นล้านบาท (28.07%) หรือเฉลี่ย 13,540 บาทต่อคน รองลงมา ธุรกิจรวบรวมผลิตผล/แปรรูป (27.08%) ธุรกิจรับฝากเงิน (22.55%) ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย (22.13%) และ ธุรกิจให้บริการ (0.17%) ตามลำดับ มีรายได้รวม 1.86 แสนล้านบาท (ลดลง 2.20%) ส่วนค่าใช้จ่ายรวม 1.81 แสนล้านบาท (ลดลง 2.35%) คิดเป็นร้อยละ 97.50 ของรายได้รวมทั้งสิ้น มีกำไรสุทธิรวม 4,647.71 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3.95%) ส่วนสมาชิกมีเงินออมเฉลี่ย 16,124 บาทต่อคน (เพิ่มขึ้น 3.35%) ขณะที่หนี้สินเฉลี่ย 22,470 บาทต่อคน (เพิ่มขึ้น 3.50%) โดยหนี้สินเฉลี่ยคิดเป็น 1.39 เท่าของเงินออมเฉลี่ย
2. กลุ่มสหกรณ์นอกภาคการเกษตร (ร้านค้า/บริการ/ออมทรัพย์/เครดิตยูเนี่ยน) จำนวน 3,139 แห่ง สมาชิก 5.12 ล้านคนเศษ "ธุรกิจขยายตัวร้อยละ 2.80 เทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา ปัจจัยมาจากธุรกิจการรับฝากเงินเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายลด กำไรเพิ่ม ส่วนสมาชิกอัตราการออมเงินเฉลี่ยและการก่อหนี้เฉลี่ยลดลงเล็กน้อย
นอกภาคการเกษตร มีทุนรวมกว่า 2.21 ล้านล้านบาท มีธุรกิจลงทุน 5 ธุรกิจ มูลค่ารวม 1.70 ล้านล้านบาทเศษ ขยายตัวร้อยละ 2.80 เทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา ปัจจัยบวกที่สำคัญมาจากการธุรกิจการรับฝากเงินและธุรกิจรวบรวมผลิตผล/แปรรูปเพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจการให้เงินกู้ยืมและธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายลดลง โดยธุรกิจการให้เงินกู้ยืมมีมูลค่ามากที่สุด 1.08 ล้านล้านบาท (63.35%) หรือเฉลี่ย 2.10 แสนบาทต่อคน รองลงมาเป็น ธุรกิจการรับฝากเงิน (35.75%) มีรายได้รวม 1.47 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 0.78%) แต่ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวม 8.19 หมื่นล้านบาทเศษ (ลดลง 12.04%) และมีกำไรสุทธิรวม 6.50 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 23.45%) ส่วนสมาชิกมีเงินออมเฉลี่ย 295,460 บาทต่อคน (ลดลง 0.05%) หนี้สินเฉลี่ย 322,310 บาทต่อคน (ลดลง 0.73%) โดยหนี้สินเฉลี่ยคิดเป็น 1.09 เท่าของเงินออมเฉลี่ย
3.กลุ่มเกษตรกร จำนวน 4,138 แห่ง สมาชิก 9.30 แสนคนเศษ
"ธุรกิจหดตัวร้อยละ 12.88 เทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญมาจากธุรกิจลงทุนเกือบทุกด้านลดลง รายได้ลด กำไรหด สมาชิกมีอัตราการออมเงินเฉลี่ยและการก่อหนี้เฉลี่ยลดลง
กลุ่มเกษตรกร มีทุนรวมทั้งสิ้น 3.74 พันล้านบาท มีธุรกิจลงทุน 5 ธุรกิจ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 8.89 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ 12.88 เทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญมาจากธุรกิจลงทุนลดลงเกือบทุกด้าน ยกเว้น ธุรกิจการให้เงินกู้ยืมและธุรกิจการให้บริการเพิ่มขึ้น โดยธุรกิจรวบรวมผลิตผล/แปรรูปมีมูลค่ามากสุด 5.78 พันล้านบาท (65.02%) หรือเฉลี่ย 6,214 บาทต่อคน รองลงมาคือ ธุรกิจสินเชื่อ (20.65%) ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย (11.44%) มีรายได้รวมกว่า 7.2 พันล้านบาท (ลดลง 16.13%) ส่วนค่าใช้จ่ายรวมกว่า 7.1 พันล้านบาท (ลดลง 16.30%) มีกำไรสุทธิรวม 119.95 ล้านบาท (ลดลง 5.08%) ส่วนสมาชิกมีเงินออมเฉลี่ย 1,101 บาทต่อคน และมีหนี้สินเฉลี่ย 2,201 บาทต่อคน โดยหนี้สินเฉลี่ยคิดเป็น 2 เท่าของเงินออมเฉลี่ย ค่อนข้างสูง |