1) ธุรกิจสินเชื่อขยายตัว 2.05 % ในไตรมาสก่อนขยายตัว 0.36 % มีการให้สินเชื่อรวมทั้งสิ้น 1.20 ล้านล้านบาทต่อปี คิดเป็น 57.71 % ของมูลค่าธุรกิจสินเชื่อรวมทั้งสิ้น เฉลี่ยเดือนละ 99,977 ล้านบาท คิดเฉลี่ยต่อสมาชิกคนละ 96,180 บาทต่อปี โดยเป็นธุรกิจสินเชื่อจากกลุ่มสหกรณ์นอกภาคการเกษตร มีมูลค่าธุรกิจสูงสุด 1.10 ล้านล้านบาท คิดเป็น 92 % ของมูลค่าธุรกิจสินเชื่อรวมทั้งสิ้น สมาชิกมีหนี้เงินกู้ยืมเฉลี่ยคนละ 213,120 บาท สำหรับกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตร มีมูลค่าธุรกิจสินเชื่อจำนวน 9.59 หมื่นล้านบาท สมาชิกมีหนี้เงินกู้ยืมเฉลี่ยคนละ 14,200 บาท
2) ธุรกิจรับฝากเงิน ขยายตัว 2.20 % ในไตรมาสก่อนขยายตัว 0.63 % มีเงินรับฝากเป็นมูลค่ารวม 701,444 ล้านบาท คิดเฉลี่ยเงินรับฝากเดือนละ 58,454 ล้านบาท โดยเป็นเงินรับฝากจากกลุ่มสหกรณ์นอกภาคการเกษตร มีมูลค่าสูงสุด 627,540 ล้านบาท คิดเป็น 89.46 % ของเงินรับฝากรวมทั้งสิ้น สมาชิกมีเงินฝากเฉลี่ย คนละ 121,371 บาท สำหรับกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตร มีมูลค่าธุรกิจเงินรับฝากจำนวน 73,686 ล้านบาท สมาชิกมีเงินฝากเฉลี่ยคนละ 10,910 บาท
3) ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย หดตัว 0.03 % ในไตรมาสก่อนหดตัว 4.01 % มีมูลค่าธุรกิจจัดหา สินค้ามาจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 79,650 ล้านบาท คิดเฉลี่ยเดือนละ 6,637 ล้านบาท โดยกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตร ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายมูลค่าสูงสุด 68,733 ล้านบาท คิดเป็น 86.29 % สำหรับกลุ่มสหกรณ์นอกภาคการเกษตร มีธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายจำนวน 9,979 ล้านบาท คิดเป็น 12.53 % ของมูลค่าธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายทั้งระบบ
4) ธุรกิจรวบรวม/แปรรูปผลิตผล ขยายตัว 0.29 % ในไตรมาสก่อนหดตัว 1.71 % เป็นผลมาจากการให้สินเชื่อ และการดูแลช่วยเหลือเกษตรกรของภาครัฐ มีมูลค่าการรวบรวม/แปรรูปผลิตผลทั้งสิ้น 96,318 ล้านบาท คิดเฉลี่ยเดือนละ 8,027 ล้านบาท โดยกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตรมีมูลค่ารวบรวม/แปรรูปผลิตผลสูงสุด 87,214 ล้านบาท คิดเป็น 90.55 % สำหรับกลุ่มสหกรณ์นอกภาคการเกษตรมีมูลค่าธุรกิจรวบรวม/แปรรูปผลิตผลจำนวน 3,979 ล้านบาท คิดเป็น 4.13 % ของมูลค่าธุรกิจรวบรวม/แปรรูปผลิตผลทั้งระบบ
5) ธุรกิจให้บริการและส่งเสริมการเกษตร หดตัวเล็กน้อย 0.01 % ในไตรมาสก่อนหดตัว 4.22 % มีมูลค่าธุรกิจรวมทั้งสิ้น 1,874 ล้านบาท คิดเฉลี่ยเดือนละ 157 ล้านบาท โดยกลุ่มสหกรณ์นอกภาคการเกษตร มีมูลค่าธุรกิจให้บริการและส่งเสริมการเกษตรสูงสุด 1,140 ล้านบาท คิดเป็น 60.80 % สำหรับกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตรมีมูลค่าธุรกิจจำนวน 707 ล้านบาท คิดเป็น 37.75 % ของมูลค่าธุรกิจให้บริการและส่งเสริมการเกษตรทั้งระบบ
ส่วนผลการดำเนินงาน ในไตรมาสที่ 4/2558 สามารถทำกำไรได้ทุกกลุ่มทั้งสหกรณ์ภาคการเกษตร, สหกรณ์นอกภาคการเกษตร และกลุ่มเกษตรกร มีกำไรสุทธิขยายตัว 3.37 % ในไตรมาสก่อนหดตัว 1.60 % โดยมีผลกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 71,011 ล้านบาท กลุ่มสหกรณ์นอกภาคการเกษตรทำกำไรสุทธิสูงสุด 67,341 ล้านบาท คิดเป็น 94.83 % ของกำไรสุทธิทั้งระบบ โดยมีรายได้ขยายตัว 1.14 % มากกว่าค่าใช้จ่ายที่ขยายตัว 0.57 %
บทสรุป ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทยไตรมาสที่ 4 สุดท้ายของปี 2558 ธุรกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น จากไตรมาสที่ 3/2558 สามารถสร้างรายได้ และทำกำไรทั้งกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตร และกลุ่มสหกรณ์นอกภาคการเกษตร และกลุ่มเกษตรกร สมาชิกกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตรมีการออมเงินเฉลี่ยขยายตัว 0.17 % มากกว่าหนี้สินเฉลี่ยขยายตัวที่ 0.15 % เช่นเดียวกับกลุ่มสหกรณ์นอกภาคการเกษตรมีการออมเงินเฉลี่ยขยายตัว 2.42 % มากกว่าหนี้สินเฉลี่ยขยายตัวที่ 2.17 % แต่สำหรับกลุ่มเกษตรกรมีการออมเงินเฉลี่ยขยายตัว 0.31 % น้อยกว่าหนี้สินเฉลี่ยขยายตัวที่ 0.44 % |