Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 

   มุ่งมั่นพัฒนาเครื่องมือทางการเงิน

             การเตือนภัยทางการเงินเป็นมิติหนึ่งที่มีความจำเป็นและสำคัญยิ่งต่อการบริหารงาน  และด้วยความมุ่งมั่น
   ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ต่อการพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็งพึ่งตนเอง จึงได้สร้างและ  
   พัฒนาเครื่องมือเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร   เพื่อใช้เป็นกลไกหนึ่งทางการ
   บริหารสู่ความมั่นคง เข้มแข็ง อิสระ และพึ่งตนเองของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้ในที่สุด


  แนวคิดมุมมองการเตือนภัยทางการเงิน

            เพื่อเป็นการกระตุ้นแนวคิดต่อมุมมองการเตือนภัยทางการเงินให้กับขบวนการสหกรณ์ ผู้สอบบัญชีและ
   หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้รับเกียรติจาก ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์  
  เศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้า และ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ (หัวหน้าฝ่ายวิจัย) บริษัทหลักทรัพย์์
  ภัทร จำกัด มาร่วมสร้างแนวคิดมุมมองการเตือนภัยทางการเงินผ่านการเสวนาทางวิชาการ เรื่อง   “เตือนภัยทาง
  การเงิน...มิติใหม่ทางการบริหาร” โดยมี คุณศิริบูรณ์ ณัฐพันธ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ เมื่อวันที่ 10   มีนาคม 2551
  ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์   ถ.วิภาวดี-รังสิต   กรุงเทพมหานคร

           การเสวนาครั้งนี้เติมเต็มเนื้อหาสาระที่น่าสนใจ ทั้งในมุมมองภาคธุรกิจและภาคสหกรณ์ ดังนี้

  บริหารความเสี่ยงทุกมิติที่เกี่ยวเนื่อง

           ภาคธุรกิจต่างๆ จะมีการตั้งกรรมการบริหารความเสี่ยง Risk Management Committee เพื่อเตือนภัยให้เห็น
  ถึงความเสี่ยงของธุรกิจที่เป็นกังวล  และเพื่อการทำแผนธุรกิจในแต่ละปี   วางเป้าหมายเกี่ยวกับปริมาณเงิน  กำไร
  รวมถึงการติดตามสถานการณ์ทางธุรกิจ และการเมืองของประเทศไทยและของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะหลัง
  ความผันผวนของธุรกิจมีความผันผวนสูงมากเปลี่ยนไปจากที่คาดหมาย   แสดงว่า  สถานการณ์มีความเสี่ยงรุนแรง
  เงินเฟ้อรุนแรง ธุรกิจแย่ลง เศรษฐกิจซึม คนมีเงินน้อยลง ซึ่งเกี่ยวพันกับมิติด้านบุคคล  แต่มิติที่ผูกพันกับสหกรณ์
  คือ  ดอกเบี้ย ซึ่งต้องสูงกว่าเงินเฟ้อ เพราะเงินเฟ้อคืออำนาจในการซื้อ   ซึ่งดอกเบี้ยเงินฝาก   ควรเกินร้อยละ 5  
  สำหรับประเทศไทยการทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงในระยะสั้นไม่ง่ายนัก  แต่อาจต้องปรับตัว   ถ้าเงินเฟ้อสูงดอกเบี้ย
  ก็ต้องขึ้น

ุ่  CAM หัวใจแห่งความมั่นคง

           กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  ได้พัฒนาเครื่องมือเตือนภัยทางการเงินที่มีประโยชน์    ตามมาตรฐานสากลของ
  การวิเคราะห์  CAMELS  6  มิติ  ที่ธนาคารพาณิชย์ที่ใช้กันทั่วโลก  C  คือ ตัวที่วัดความเข้มแข็งของเงินทุน
  A   คือ คุณภาพของสินทรัพย      M   คือ อัตราการใช้จ่ายไม่ให้สูงมากเมื่อเทียบกับกำไรเกินกว่าครึ่ง

           CAM  จึงเป็นหัวใจสำหรับความมั่นคงของสถาบันการเงินที่สำคัญมากที่สุด    ถือว่าเป็นปัจจัยพื้นฐาน ถ้า
  ได้มอง  3 มิติหลักนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถบริหารผ่านวิกฤติได้     สำหรับ   ELS   ขึ้นอยู่กับสภาวการณ์ว่ามี
  โอกาสทำกำไรมากน้อยเพียงไรถือเป็นส่วนเติมเต็ม


  CFSAWS:ss  เครื่องมือเตือนภัยภาคสหกรณ์

          สถานการณ์ทางการเงินมีการปรับเปลี่ยน ความไม่แน่นอนและปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นตามมา    จึงจำเป็นต้อง
  พยามมองหาหัวใจแห่งความมั่นคงทางการเงิน ที่กล่าว คือ  CAM เป็นมาตรฐานสากล ที่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ
  เตือนภัย CFSAWS เป็นเครื่องมือที่วัดผลในอดีต
  
 เพื่อให้สหกรณ์มองอนาคตให้สามารถมองหาทาง     และ
  ปรับตัวเองเพื่ออนาคตได้ 
ข้อมูลที่ได้นั้นต้องอาศัยการวิเคราะห์เชิงลึกตามสภาพการณ์ของแต่ละสหกรณ์ ซึ่ง
  เครื่องมือเตือนภัย CFSAWS สามารถช่วยได้มาก 
         
หากองค์กรของคุณ มี M, A, C เป็นสีเขียวหรือเข้มแข็งอยู่แล้ว รับรองว่าจะวิกฤติยังไงก็ไม่เจ๊ง แต่มีีตัวเสริม
  ให้องค์กรแข็งแกร่งมากขึ้น   คือ E Lซึ่ง  E - ยิ่งดียิ่งได้ผลกำไรมากทำให้เกิดความมั่นคงมาก   L - การบริหาร
  สภาพคล่อง   
และ  S - ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพทางเศรษฐกิจ  ถ้าสหกรณ์ทำได้ทั้ง 6 หลักนี้  จะทำให้
  องค์กรมีผลกำไรและแข็งแกร่งมาก


  จุดเริ่มต้นที่ดีในการวิเคราะห์

          CFSAWS เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และได้ผลโดยตรงคือ สะดวก ง่าย และช่วยร่นระยะเวลา ประหยัดเวลาในการ
  ทำงาน ซึ่งสามารถนำเอาไปเปรียบเทียบกับมาตรฐานกลาง หรือกลุ่มเพื่อน (Peer Group) ได้ ทั้งนี้ น้ำหนักที่ต้อง
  เน้นคือ   E เพื่อเป็นความเจริญเติบโตหรือประโยชน์ของสมาชิกสหกรณ์   S เป็นสิ่งที่ต้องเข้าไปดูรายละเอียดให้
  มาก เพราะเป็นเรื่องยากต้องอาศัยการประเมิน   การคาดการณ์ที่แม่นยำ   ต้องศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ทาง 
  เศรษฐกิจให้ดี


  สรุป

          การสหกรณ์เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงคือ ในส่วนบุคคลถือเป็นการฝึกให้สมาชิกได้รู้จักออม  
  รู้จักวางแผนการใช้เงิน ในส่วนสหกรณ์ถือเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงขั้นที่ 2   คือ  เชื่อมโยงครัวเรือนมา
  เป็นกลุ่ม  สหกรณ์เป็นองค์กรที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ     และสหกรณ์เป็นตัวสำคัญของแผนพัฒนาประเทศ 
  ฉบับที่  10  ที่ต้องส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง และในรัฐธรรมนูญก็ได้ระบุไว้ว่าให้ส่งเสริมสหกรณ์  ดังนั้น สหกรณ์
  จึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการส่งเสริมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สหกรณ์มีภูมิคุ้มกันในตัว เพราะปัจจุบันโลกเปลี่ยน
  ไปเร็ว มีความเสี่ยงสูง ถ้าส่งเสริมสหกรณ์มากๆ จะช่วยให้ประเทศมีภูมิคุ้มกันที่ดี เพียงแต่จะต้องทำอย่างไร
  ซึ่งเราต่างก็ได้คำตอบจากการเสวนาครั้งนี้


                               สนใจรายละเอียดติดตามได้ที่   http://statistic.cad.go.th


ที่มา : ส่่วนวิจัยและพัฒนาสารสนเทศทางการเงิน
ข่าว/บทความยอดนิยม ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด ข่าว/บทความล่าสุด
Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร
ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2549 (28/03/2550)
กฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Law)
“ขนิษฐา มะโนสมบัติ”ครูบัญชีอาสา จังหวัดเชียงรายใช้ศาสตร์พระราชานำทางชีวิต พลิกวิกฤตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
มิติทางการเงินที่มีผลต่อหนี้สินของสหกรณ์ประมงในประเทศไทย
สหกรณ์ไทย ...คืนกำไรสู่สมาชิก 80.52 %
สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์
จำนวนคนอ่าน 9147 คน จำนวนคนโหวต 24 คน

  จำนวนคนโหวต 24 คน
โหวตคะแนนให้ข่าว/บทความนี้
1 2 3 4 5

  ระดับ 

  ให้ 1 คะแนน
 
4%
  ให้ 2 คะแนน
 
13%
  ให้ 3 คะแนน
 
17%
  ให้ 4 คะแนน
 
29%
  ให้ 5 คะแนน
 
38%
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel