|
|
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์แจงไร้ปัญหาเรื่องผู้สอบบัญชีสหกรณ์ การันตีศักยภาพ
การปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างมืออาชีพ
|

|
นางสาวจุฑามาศ ลิปิการถกล รองอธิบดี
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมตรวจ
บัญชีสหกรณ์ มีภารกิจหนึ่งที่สำคัญ คือ การตรวจ
สอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้ม
แข็ง เป็นมาตรฐานสากลและกำกับดูแลการปฏิบัติ
งานของผู้สอบบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ
และตามที่นายทะเบียนสหกรณ์กำหนด โดยปัจจุบัน
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีผู้สอบบัญชีสหกรณ์ทั้ง
หมด จำนวน ๑,๑๕๓ คน แบ่งเป็น ๒ กลุ่ม คือ ๑.
เป็นข้าราชการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จำนวน ๗๐๘
คน ซึ่งกรมฯ ได้จัดระดับผู้สอบบัญชีให้เหมาะสมกับ
ระดับความยากในการสอบสหกรณ์แต่ละแห่ง ๒.ผู้
สอบบัญชีภาคเอกชน จำนวน ๓๔๕ คน โดยผู้สอบ
บัญชีภาคเอกชนที่จะมาทำหน้าที่สอบบัญชีให้กับ
สหกรณ์นั้น จะต้องขึ้นผ่านการทดสอบตามหลัก
เกณฑ์ที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนดและได้รับการ
ขึ้นทะเบียนกับกรมฯ นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้มีการ
กำกับดูแลสหกรณ์ที่ถ่ายโอนให้ผู้สอบบัญชีสหกรณ์
ภาคเอกชนตรวจสอบ ให้ดำเนินการเป็นไปตาม
มาตรฐานการบัญชีและระเบียบที่นายทะเบียน
สหกรณ์กำหนด |
รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้มีนโยบายในการ
พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้เฉพาะด้านการบัญชี การสอบบัญชี และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการ
สอบบัญชี รวมทั้งความสามารถในการสอบบัญชี เพื่อเพิ่มศักยภาพบุคลากรให้ก้าวหน้าในสาย
อาชีพสอบบัญชี (Career Path) มาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ (นาย
โอภาส ทองยงค์) ได้มีนโยบายที่จะพัฒนาข้าราชการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ให้สามารถสอบเป็นผู้
สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) ได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพการตรวจสอบบัญชี
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร สร้างความเชื่อมั่นแก่สมาชิกในการทำธุรกิจและธุรกรรมทางการเงินกับ
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการหารือกับสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อให้ข้า
ราชการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ปฏิบัติงานสอบบัญชีสหกรณ์ สามารถนำผลการปฏิบัติงานมานับ
เป็นชั่วโมงฝึกงาน เพื่อให้มีคุณสมบัติในการสอบขึ้นทะเบียนกับสภาวิชาชีพบัญชีเป็นผู้สอบบัญชี
รับอนุญาต
ทั้งนี้ ในปี ๒๕๖๑ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ปรับกระบวนการสอบบัญชีให้มีประสิทธิภาพมาก
ยิ่งขึ้น โดยเน้นการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดข้อบกพร่องทางการเงินการบัญชี
ก่อนปฏิบัติงานตรวจสอบบัญชี และเน้นการตรวจสอบในประเด็นที่อาจมีความเสี่ยงนั้น เพื่อให้
สามารถพบข้อบกพร่อง/การทุจริตทางการเงินการบัญชีได้อย่างทันการณ์ และมีนโยบายให้เพิ่ม
ช่วงเวลาในการเข้าตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ให้มากยิ่งขึ้น โดยเข้าตรวจเป็นรายไตรมาส
"กรณีที่มีข่าวว่ากรมตรวจบัญชีสหกรณ์มีบุคลากรไม่เพียงพอในการทำหน้าที่ตรวจสอบ
บัญชีนั้น จึงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ส่วนกรณีการทุจริตที่เกิดขึ้นในสหกรณ์หลายแห่ง
หลายกรณีส่วนใหญ่เกิดจากระบบการควบคุมภายในของสหกรณ์มีจุดอ่อนหรือมีการไม่ปฏิบัติตาม
ระบบการควบคุมภายในที่กำหนด สมาชิกไม่ได้ติดตามการดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับโดย
สม่ำเสมอ จนไม่ทราบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ดังนั้น เพื่อสิทธิประโยชน์ของสมาชิกสหกรณ์เอง
สมาชิกจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ ตลอดจนหลักการและวิธี
การสหกรณ์และการตรวจสอบการเงินการบัญชีและการดำเนินการของสหกรณ์ รับรู้ข้อมูลทาง
บัญชีสหกรณ์ทั้งภาพรวมและของตนเอง ซึ่งหากสมาชิกช่วยกันตรวจสอบเบื้องต้นและแจ้ง
เบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ ก็จะช่วยลดปัญหาการทุจริตได้ในระดับหนึ่งรองอธิบดีกรมตรวจบัญชี
สหกรณ์ ฝากทิ้งท้าย. |
|
|
|
สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889 |
|
 |

|
 |
|
การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel |
|