Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 
โดย สุกัญญา มูลกลาง กลุ่มวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน
มีนาคม 2562
 
              ในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาหนี้สินครัวเรือนยังเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลให้กับหลายฝ่าย เนื่องจากมูลค่าหนี้สินครัวเรือนอยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบริโภคของครัวเรือน เมื่อครัวเรือนไม่มีกำลังจ่ายหนี้ได้ 1สภาพัฒน์ แจงว่าหนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งกว่า 50% เป็นการกู้เพื่อซื้อ ที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามความสามารถในการชำระหนี้ยังไม่น่ากังวลเท่าไหร่นัก เนื่องจากเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น แต่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
          ภาพรวมการให้สินเชื่อของภาคสหกรณ์ไทย มีอัตราการขยายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี เช่นเดียวกับสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ที่ขยายตัวต่อเนื่องและสอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจ*2 สำหรับสินเชื่อด้อยคุณภาพ ที่ไม่สามารถชำระได้ตามกำหนด/NPL ในปี 2561 ระบบธนาคารพาณิชย์ภาพรวมยังทรงตัว ขณะที่ภาคสหกรณ์ไทย มีอัตราเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับสินเชื่อ คิดเป็นร้อยละ 5.79 หากเปรียบเทียบสัดส่วนหนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ของภาคสหกรณ์ไทยกับสินเชื่อรวมของระบบธนาคารพาณิชย์ ในปี 2561 คิดเป็นร้อยละ 12.74 ปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 12.47 จะเห็นได้ว่าสัดส่วนของหนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL มีอัตราเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียงเล็กน้อย (โดยยอด NPL คงค้างปี 2561 ของระบบธนาคารพาณิชย์ มีจำนวน 443 พันล้านบาท)
 
ทุนดำเนินงานของภาคสหกรณ์ไทยทั้งสิ้น 3,004,097 ล้านบาท แยกเป็น สหกรณ์ภาคการเกษตร 284,677 ล้านบาท (9.48%) สหกรณ์นอกภาคการเกษตร 2,714,850 ล้านบาท (90.37%) และกลุ่มเกษตรกร 4,570 ล้านบาท (0.15%) ส่วนใหญ่ได้มาจากทุนเรือนหุ้นร้อยละ 37.23 ของทุนดำเนินงานทั้งสิ้น รองลงมาคือ เงินรับฝากร้อยละ 36.40 พบว่านำไปลงทุนในลูกหนี้เงินให้กู้สูงสุดถึง 2,225,734 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 74.10 ของทุนดำเนินงานทั้งสิ้น แยกเป็น สหกรณ์ภาคการเกษตร 175,013 ล้านบาท (5.83%) สหกรณ์นอกภาคการเกษตร 2,048,692 ล้านบาท (68.20%) และกลุ่มเกษตรกร 2,029 ล้านบาท (0.07%) ของทุนดำเนินงานทั้งสิ้น ล้านบาท
          ณ วันสิ้นปี มียอดสินเชื่อคงเหลือทั้งสิ้น 2,237,541 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 5.23 แยกเป็น สหกรณ์ภาคการเกษตร 180,997 ล้านบาท สหกรณ์นอกภาคการเกษตร 2,054,284 ล้านบาท และกลุ่มเกษตรกร 2,260 ล้านบาท            
         
          เมื่อเปรียบเทียบในรอบ 5 ปี (ปี 2557-2561) จะเห็นว่าสินเชื่อของภาคสหกรณ์ไทยจะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งในปี 2561 สหกรณ์นอกภาคการเกษตรมีการปล่อยสินเชื่อสูงสุดถึงร้อยละ91.81 สหกรณ์ภาคการเกษตรร้อยละ 8.09 และกลุ่มเกษตรกรร้อยละ 0.10
          ในปี 2562 คาดการณ์ว่าสินเชื่อคงเหลือของภาคสหกรณ์ไทยจะมีอัตราเพิ่มขึ้นจากปี 2561 โดยสหกรณ์ภาคการเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.41 สหกรณ์นอกภาคการเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.87 และกลุ่มเกษตรกรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.94
          สำหรับภาพรวมสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ไม่สามารถชำระได้ตามกำหนด/NPL ในปี 2561 มีทั้งสิ้น 56,446 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับสินเชื่อ ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 5.79 อยู่ในสหกรณ์ภาคการเกษตรสูงสุดร้อยละ 78.08 รองลงมาคือ สหกรณ์นอกภาคการเกษตรร้อยละ 20.70 และกลุ่มเกษตรกรร้อยละ 1.22 โดยกลุ่มเกษตรกรมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนสูงสุดร้อยละ 10.79 สหกรณ์ภาคการเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.50 ในขณะที่สหกรณ์นอกภาคการเกษตรมีอัตราลดลงจากปีก่อนร้อยละ 0.47
 
 
          เมื่อเปรียบเทียบภาพรวมในรอบ 5 ปี (ปี 2557-2561) พบว่า หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี (ยกเว้นสหกรณ์นอกภาคการเกษตร มีอัตราเพิ่มขึ้นในปี 2557-2558 และมีอัตราลดลงต่อเนื่องในปี 2559 – 2561) ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2562 หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ของภาคสหกรณ์ไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยสหกรณ์ภาคการเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.36 สหกรณ์นอกภาคการเกษตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.02 และกลุ่มเกษตรกรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อย 9.38
          ดังนั้น ภาคสหกรณ์ไทยควรมีการบริหารจัดการสินทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะลูกหนี้เงินกู้ ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด ที่จะก่อให้เกิดปัญหาด้านความเพียงพอของเงินทุนในด้านการรับภาระต่าง ๆ ทั้งด้านเจ้าหนี้ ดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่าย รวมทั้งการขยายตัวของธุรกิจในปีต่อไป
          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาระหนี้จะเพิ่มขึ้น ส่วนความสามารถในการชำระหนี้ยังไม่น่ากังวลเกินไปนัก ทั้งนี้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไม่ควรตั้งอยู่ในความประมาท ควรมีหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อ และมาตรการติดตาม เรียกเก็บหนี้ให้เป็นไปตามเงื่อนไข เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสหกรณ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องตระหนักและหันมาใส่ใจในการสร้างวินัยการใช้จ่ายให้มากยิ่งขึ้น โดยเริ่มต้นปลูกฝั่งจิตสำนึกตั้งแต่เยาวชนไม่ให้มีค่านิยมใช้จ่ายเกินรายได้ หรือนำเงินอนาคตมาใช้โดยไม่จำเป็น โดยให้ยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักการดำเนินชีวิต
 
 
 
 
-----------------------------------------------------------------------------
 
 
1. ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ - ภาระ "หนี้ครัวเรือนไทย” น่าเป็นห่วง จริงหรือ
2. ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย – ผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ ปี 2561
3. ที่มา : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย – สรุปจำนวนประชากรไทย ณ 31 ธันวาคม 2561
ข่าว/บทความยอดนิยม ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด ข่าว/บทความล่าสุด
Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร
ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2549 (28/03/2550)
กฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Law)
“ขนิษฐา มะโนสมบัติ”ครูบัญชีอาสา จังหวัดเชียงรายใช้ศาสตร์พระราชานำทางชีวิต พลิกวิกฤตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
มิติทางการเงินที่มีผลต่อหนี้สินของสหกรณ์ประมงในประเทศไทย
สหกรณ์ไทย ...คืนกำไรสู่สมาชิก 80.52 %
สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์
จำนวนคนอ่าน 7674 คน จำนวนคนโหวต 4 คน

  จำนวนคนโหวต 4 คน
โหวตคะแนนให้ข่าว/บทความนี้
1 2 3 4 5

  ระดับ 

  ให้ 1 คะแนน
 
25%
  ให้ 2 คะแนน
0%
  ให้ 3 คะแนน
0%
  ให้ 4 คะแนน
0%
  ให้ 5 คะแนน
 
75%
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel