|
|

|
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
สนองนโยบายโครงการบริหารจัดการ
วิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่ เดินหน้าให้ความรู้
ด้านบัญชีในพื้นที่เป้าหมาย
|
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินนโยบายโครงการบริหารจัดการ
วิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่ (Mega Farm Enterprise) เพื่อเพิ่มพูนรายได้ให้เกษตรกร
โดยเริ่มตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายออกสู่ตลาดให้มีศักยภาพ สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
ตามนโยบาย "การตลาดนำการผลิต ภายใต้แนวทาง "การจัดทำแผนการผลิตภาคการ
เกษตร (Agricultural Production Plan) และ"โครงการเกษตรแปลงใหญ่ (Mega Farm
Project) ซึ่งมีเกษตรกรและภาครัฐ รวมทั้งภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ
เกษตรแปลงใหญ่ วัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้มีการพัฒนาระบบเกษตรกรรมของไทย
สามารถลดต้นทุนการผลิตและมีผลผลิตต่อหน่วยเพิ่มขึ้นและมีคุณภาพได้มาตรฐาน โดยมีเป้า
หมายแปลงใหญ่ไม่น้อยกว่า 1 แปลงใหญ่ ต่อ 1 ภูมิภาค พื้นที่ติดกันรวมกันไม่น้อยกว่า 1,000
ไร่ ขึ้นไป เพื่อก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) จากการผลิต ทำให้ต้นทุน
การทำเกษตรกรรมลดลง โดยคัดเลือกจากพื้นที่ อาทิ พื้นที่ สปก.ที่มอบให้เกษตรกร พื้นที่ตาม
โครงการจัดทำที่ดินทำกินแห่งชาติ (คทช.) พื้นที่ซึ่งเกษตรกรได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์การ
เกษตรหรือวิสาหกิจชุมชน พื้นที่ที่ทำการเกษตรแปลงใหญ่อยู่แล้วรวมกันอยู่หลายๆ แปลง
ในพื้นที่อำเภอเดียวกัน ทั้งนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมเป็นหน่วยงานสนับสนุนตามสนอง
นโยบายดังกล่าว โดยร่วมบูรณาการขับเคลื่อนการนำระบบบัญชีไปวางรากฐานในการสร้างความ
เข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เพื่อเพิ่มพูนรายได้เกษตรกรในระดับพื้นที่ เกษตรกร
สามารถจัดทำบัญชีรับ-จ่าย ในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนอาชีพ และนำข้อมูลทางบัญชีไปใช้
วิเคราะห์อย่างเป็นระบบ สามารถวางแผนการผลิตและการตลาดให้ตรงตามช่วงเวลาที่เหมาะสม
ผลผลิตมีปริมาณและคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาด
นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมตรวจบัญชี
สหกรณ์ ได้นำองค์ความรู้ด้านบัญชีเผยแพร่แก่เกษตรกรให้มีความรู้ความเข้าใจในการจัดทำบัญชี
สามารถนำข้อมูลทางบัญชีและหลักวิชาการมาใช้วางแผนการประกอบอาชีพ วางแผนกิจกรรม
ทางการเกษตร มีความรู้และเข้าใจในการนำระบบบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการภาคการเกษตร
ได้ รู้รายรับ รายจ่าย รู้เวลาที่เหมาะสม สนับสนุนให้เกิดกลไกการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อจำหน่าย
ผลผลิตออกสู่ตลาด สร้างเสริมให้เกษตรกรไทยพร้อมก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลง และสามารถ
แข่งขันในตลาดโลกได้ ทั้งนี้ เกษตรกรจำเป็นต้องรู้จักจุดแข็ง จุดอ่อน รู้ถึงขีดความสามารถของ
ตนเอง ซึ่งหากเกษตรกรมีการบันทึกบัญชีเป็นประจำจะรู้ว่าสิ่งใดมีความจำเป็นหรือไม่จำเป็น
วิเคราะห์ได้ว่าอาชีพที่ทำอยู่นั้น มีโอกาสยั่งยืนหรือไม่ มีต้นทุนที่คุ้มค่ากับผลตอบแทนที่ได้รับ
และมีความเสี่ยงด้านการตลาดเพียงใด สิ่งเหล่านี้ถ้าไม่มีการจดบันทึก ก็เป็นการทำแบบเลื่อนลอย
โดยไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบ
"บัญชีครัวเรือน หรือ บัญชีต้นทุนอาชีพ เป็นเพียงปัจจัยสนับสนุนที่ใช้ประกอบในการ
ตัดสินใจของพี่น้องเกษตรกรเท่านั้น แต่การที่จะทำให้เกษตรกรประสบความสำเร็จได้ ต้องมีความ
รู้ด้านวิชาการอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เพราะ ทุกอย่างคือต้นทุน ถ้าผลตอบแทนไม่คุ้มค่าก็ควรปรับ
เปลี่ยนให้เหมาะสม ซึ่งสิ่งเหล่านี้การบันทึกข้อมูลทางบัญชีจะช่วยได้ ซึ่งกรมฯ จะดำเนินการสนับ
สนุนองค์ความรู้ทางบัญชีแก่เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายสนองตามนโยบาย Mega Farm
Enterprise ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดไว้ ซึ่งรวมถึงโครงการอื่นๆ ทุกโครงการ
ของกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ด้วย อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว. |
|
|
|
สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889 |
|
 |

|
 |
|
การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel |
|