เงินออมและหนี้ของสมาชิกภาคสหกรณ์ไทย รายเดือน พฤษภาคม 2564

นุจรินทร์ ตรีมงคล
กลุ่มวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสาร

ภาคสหกรณ์ไทย ประกอบด้วยสหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ประมง สหกรณ์นิคม สหกรณ์ร้านค้า สหกรณ์บริการ สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน กลุ่มเกษตรกร และชุมนุมสหกรณ์

เงินออมของสมาชิก มาจากหุ้นรวมกับเงินรับฝากของสมาชิก ส่วนหนี้ของสมาชิกคือหนี้ที่สมาชิกกู้เงิน และเงินเชื่อของสมาชิกที่ได้มาจากสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร (ลูกหนี้เงินให้กู้สมาชิก)

เงินออมและหนี้ของสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เดือนพฤษภาคม 2564 มีดังนี้

เดือนพฤษภาคม 2564 ภาพรวมสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรมีเงินออมไว้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร จำนวนเงิน 2.58 ล้านล้านบาท และมีภาระหนี้กับสหกรณ์และกล่มเกษตรกร จำนวนเงิน 2.34 ล้านล้านบาท ซึ่งแสดงว่าภาพรวมสมาชิกของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรมีเงินออม มากกว่า หนี้ 1.10 เท่า

จากภาพรวมจำนวนเงินออมของสมาชิกที่มีมากกว่าจำนวนเงินที่สมาชิกเป็นหนี้ ทำให้เงินออมเฉลี่ยต่อสมาชิก มากกว่าหนี้เฉลี่ยต่อสมาชิกตามไปด้วย โดยเงินออมเฉลี่ยต่อสมาชิก มีเท่ากับ 212,818.37 บาทต่อคน และหนี่เฉลี่ยต่อสมาชิก มีเท่ากับ 193,123.31 บาทต่อคน ดังนั้นเงินออมเฉลี่ยต่อสมาชิกจึงมากกว่าหนี้เฉลี่ยต่อสมาชิก เท่ากับ 19,695.06 บาทต่อคน

เงินออมต่อหนี้ของสมาชิกและเงินออมเฉลี่ยกับหนี้เฉลี่ยต่อสมาชิกภาคสหกรณ์ไทย มีดังนี้

หากพิจารณาแยกประเภทตามการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ พบว่า ประมาณร้อยละ 85 เงินออมและหนี้ของสมาชิกภาคสหกรณ์ไทยเป็นของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ และหากวิเคราะห์สัดส่วนเงินออมต่อหนี้ของสมาชิก พบว่าชุมนุมสหกรณ์มีสัดส่วนเงินออมมากกว่าหนี้ของสมาชิกมากสุด รองลงมาเป็นสหกรณ์นอกภาคการเกษตร และสหกรณ์ออมทรัพย์ ในขณะที่สหกรณ์ภาคการเกษตรมีสัดส่วนหนี้มากกว่าเงินออมของสมาชิก ซึ่งเงินออมเฉลี่ยและหนี้สินเฉลี่ยต่อสมาชิกก็เป็นไปตามเงินออมและหนี้ของสมาชิกเช่นกัน โดยเฉพาะชุมนุมสหกรณ์มีเงินออมต่อ

สมาชิก ประมาณ 32 ล้านบาท และหนี้เฉลี่ยต่อสมาชิก ประมาณ 18 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงมากและแตกต่างจากสหกรณ์ประเภทอื่น เนื่องจากชุมนุมสหกรณ์มีสมาชิกเป็นสหกรณ์โดยนำเงินมาฝากไว้และกู้เงินกับชุมนุมสหกรณ์เป็นจำนวนมาก ในขณะที่สหกรณ์ประเภทอื่นมีสมาชิกเป็นบุคคลและเงินออมก็มาจากการสะสมค่าหุ้นและนำเงินมาฝากและกู้เงินกับสหกรณ์ในจำนวนเงินตามกำลังของตนเอง

เมื่อเปรียบเทียบเงินออมและหนี้ของสมาชิกภาคสหกรณ์ไทย คิดเป็นประมาณร้อยละ 18 ของเงินออมและหนี้ครัวเรือนไทย (ในปี 2563 คนไทยมีเงินฝากกับสถาบันการเงินอยู่ที่ประมาณ 14.08 ล้านล้านบาท และมีหนี้ครัวเรือน อยู่ที่ประมาณ 14.02 ล้านล้านบาท - ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย) และพบว่าเงินออมและหนี้ของสมาชิกภาคสหกรณ์ไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับเงินออมและหนี้ครัวเรือนไทย คือ เงินออม มากกว่า หนี้ ซึ่งเหตุที่ทำให้สมาชิกภาคสหกรณ์ไทยยังคงมีเงินออมมากกว่าหนี้ เนื่องจากเงินออมของสมาชิกภาคสหกรณ์ไทยส่วนใหญ่มาจากการสะสมค่าหุ้นเป็นเวลานาน และคาดการณ์ในอนาคตสมาชิกภาคสหกรณ์ไทยยังคงมีเงินออมมากกว่าหนี้

ข่าว/บทความยอดนิยม

ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด

ข่าว/บทความล่าสุด

	Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
	สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
	วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
	บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
	ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร

	ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2549 (28/03/2550)
	กฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Law)
	“ขนิษฐา มะโนสมบัติ”ครูบัญชีอาสา จังหวัดเชียงรายใช้ศาสตร์พระราชานำทางชีวิต พลิกวิกฤตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
	มิติทางการเงินที่มีผลต่อหนี้สินของสหกรณ์ประมงในประเทศไทย
	สหกรณ์ไทย ...คืนกำไรสู่สมาชิก 80.52 %

	สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
	สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
	สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
	หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
	สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์