Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 

 

 
          จากสถานการณ์ที่ไทยต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจสองเรื่องพร้อมกัน ทั้งด้าน การชะลอตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ และเงินบาทแข็งค่าที่เป็นผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง การแข็งค่าดังกล่าวส่วนหนึ่งได้เกิดจากเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดทุน ของไทยเป็นจำนวนมาก เงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค เช่น เงินดอลลาร์สิงคโปร์ เงินหยวนของจีนเป็นต้น แต่ปรากฏว่าเงินบาทของไทยแข็งค่ามากกว่าสกุลอื่นมาก นอกจากนี้ปัจจัยที่เงินบาทแข็งค่าอีกส่วนหนึ่งได้เกิดจากผูู้้ส่งออกของไทยขายเงินดอลลาร์ฯ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ผลจากค่าเงินบาทแข็งค่านี้เอง ได้ส่งผลต่อการส่งออกในภาคเกษตรมากสาขาหนึ่งในบรรดาภาคเศรษฐกิจทั้งหมดของ ประเทศไทย
 
          ประชากรไทยส่วนใหญ่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 มีอาชีพเกษตรกรรม และกว่า 6.4 ล้านครัวเรือน เป็นสมาชิกเครือข่ายภาคเกษตรของสถาบันสหกรณ์ (เกษตร ประมง นิคม) และกลุ่มเกษตรกร 11,406 แห่ง (ข้อมูล ณ 21 ธ.ค. 49) สามารถผลิตพืชเศรษฐกิจสำคัญ ผ่านธุรกิจเครือข่ายของสถาบันสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ได้แก่ ยางพารา ข้าวเปลือก ปาล์ม ข้าวโพด อ้อย และมันสำปะหลัง นอกจากนี้แล้ว นับว่ายางพารา ข้าว เป็นพืชเศรษฐกิจ ที่สำคัญที่สุดต่อการส่งออกของไทยในกลุ่มเกษตร และไทยสามารถผลิตยางธรรมชาติ มากที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีการแปรรูปสินค้าเกษตรโดยเฉพาะประมง เช่น กุ้งแช่เข็ง ไก่ส่งออก รวมทั้งอุตสาหกรรมผลไม้กระป๋อง เช่น สับปะรด ลำใย พืชเศรษฐกิจเหล่านี้คง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งทำให้ราคาขายสูงขึ้น แต่แลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทได้น้อย จึงเป็นอีกสาเหตุที่ส่งผลทำให้สมาชิกสถาบันสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรซึ่งเป็นผู้ผลิตอาจต้องขาดรายได้ หรือมีรายได้ลดลง
 

 
          สถาบันสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร จัดเป็นแหล่งทุนให้กับสมาชิกกู้ยืมเงินเพื่อนำไปลงทุนประกอบอาชีพ จากข้อมูลปัจจุบันพบว่า ธุรกิจสินเชื่อมีปริมาณในรอบปีสูงกว่าธุรกิจอื่น ทุนดำเนินงานจึงไปจมอยู่ที่ลูกหนี้เป็นส่วนใหญ่ หากสมาชิกมีรายได้ไม่มากพอที่จะส่งชำระหนี้คืนให้กับสถาบันสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เนื่องจากผลตอบแทนของมูลค่า สินค้าที่จำหน่ายได้ลดลงจากเดิม สหกรณ์อาจขาดสภาพคล่องทางการเงินเพื่อใช้เป็นทุน หมุนเวียน ประกอบกับภาคเกษตรต้องประสบกับปัญหาอุทกภัยน้ำท่วม จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ี่ทำให้การดำเนินธุรกิจของสถาบันสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรต้องเฝ้าระวังความไม่เพียงพอ ต่อความต้องการใช้เงิน เนื่องจากไม่สามารถเรียกเก็บหนี้จากลูกหนี้ที่ถึงกำหนดชำระ จากข้อมูลปี 2548 มีลูกหนี้เงินกู้สิ้นปีอยู่เกือบ 6 แสนล้านบาท มีหนี้ค้างชำระตามกำหนดกว่า16,000 ล้านบาท ซึ่งได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไว้ประมาณ 2 พันล้านบาท และมีแนวโน้มอัตราค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อลูกหนี้จะเพิ่มสูงขึ้น
 

 

          แม้ว่าสถาบันสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรส่วนใหญ่จะไม่ใช่ผู้ค้าส่งออกโดยตรง เนื่องจากผู้บริหารสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรยังขาดความรู้และประสบการณ์ด้านการส่งออก ผลิตผลส่วนใหญ่จะจำหน่ายให้กับพ่อค้าในพื้นที่ หรือบริษัทตัวแทนจำหน่ายจากต่างประเทศ มาติดต่อเอง ซึ่งผู้ซื้อเหล่านี้หากนำผลิตผลเป็นสินค้าส่งออกก็จะต้องได้รับผลกระทบจาก ค่าเงินบาทที่แข็งขี้น ส่งผลต่อรายได้ของสมาชิกสถาบันสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเช่นกัน ดังนั้นสถาบันสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรควรให้ความสำคัญกับสิ่งต่อไปนี้

              ควรเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดได้ โดยควบคุมด้านคุณภาพและมาตรฐานให้มีความ สม่ำเสมอตลอดไป 
                  
ให้การศึกษาแก่สมาชิก โดยสนับสนุนส่งเสริมให้มีการศึกษาดูงาน เพื่อนำ ความรู้มาพัฒนาอาชีพให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมและทันสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เป็นการเสริมสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น
                  ลดต้นทุนให้ต่ำลง โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วย ควรคำำนึงถึงความเหมาะสม และความจำเป็นกับธุรกิจ
                  สนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยเน้นการใช้วัตถุดิบตามธรรมชาติที่ผลิตได้ให้มากขึ้น ให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการสร้าง และใช้ทรัพย์สินที่จะก่อให้เกิด ประโยชน์ร่วมกันในพื้นที่ใกล้กัน เช่น เครื่องสีข้าว รถเก็บเกี่ยวข้าว ให้เป็นกองกลาง โดยมีระบบการควบคุมดูแลอย่างเป็นระบบ
                  ศึกษาตลาด และติดตามสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง
                  ให้ความสำคัญกับธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย และธุรกิจรวบรวมผลิตผล และแปรรูป ซึ่งอาจทำให้ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าธุรกิจสินเชื่อ โดยมีการศึกษาถึงวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
                  มีการทบทวนหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อ คุณสมบัติของผู้กู้ที่มีคุณภาพ และความเหมาะสมของปริมาณเงินให้กู้โครงการเงินกู้ควรมีการพิจารณาอย่างดีถึงประโยชน์ และหลักประกันเงินกู้
                  ให้ความสำคัญกับการจัดทำบัญชี และใช้ข้อมูลทางการเงินเพื่อการบริิหารงาน จะเป็นการลดความเสี่ยงในการบริหารจัดการการเงิน
                  รักษาขนาดของการประกอบธุรกรรมทางการเกษตรหรืออุตสาหกรรมเกษตร ให้อยู่ในขอบเขตที่ตนสามารถมีเงินทุนเพียงพอต่อการรองรับได้
                  ติดตามความเคลื่อนไหวโดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยนในด้านปริวรรตเงินตรา ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากรายรับให้รุนแรงน้อยลง

ที่มา: ส่วนวิจัยและพัฒนาสารสนเทศทางการเงิน

ข่าว/บทความยอดนิยม ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด ข่าว/บทความล่าสุด
Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร
ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2549 (28/03/2550)
กฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Law)
“ขนิษฐา มะโนสมบัติ”ครูบัญชีอาสา จังหวัดเชียงรายใช้ศาสตร์พระราชานำทางชีวิต พลิกวิกฤตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
มิติทางการเงินที่มีผลต่อหนี้สินของสหกรณ์ประมงในประเทศไทย
สหกรณ์ไทย ...คืนกำไรสู่สมาชิก 80.52 %
สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์
จำนวนคนอ่าน 9635 คน จำนวนคนโหวต 2 คน

  จำนวนคนโหวต 2 คน
โหวตคะแนนให้ข่าว/บทความนี้
1 2 3 4 5

  ระดับ 

  ให้ 1 คะแนน
0%
  ให้ 2 คะแนน
0%
  ให้ 3 คะแนน
0%
  ให้ 4 คะแนน
 
100%
  ให้ 5 คะแนน
0%
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel