ซื้อ-ขายปุ๋ย(แบบตั๋วปุ๋ย)ห่วงโซ่ในระบบสหกรณ์ (02/07/2550)

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ หวั่นธุรกิจซื้อ-ขายปุ๋ยล่วงหน้า (แบบตั๋วปุ๋ย) หากเป็นการ
กระทำเพื่อหวังเก็งกำไรโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของสหกรณ์ จะเกิดเป็นห่วงโซ่ในระบบสหกรณ์
สร้างความเสียหายทั้งระบบได้ ทั้งนี้เพราะผู้จำหน่ายปุ๋ยอาจใช้สหกรณ์เป็นเครื่องมือเชื่อมโยง
จากสหกรณ์สู่สหกรณ์ด้วยกัน และแพร่กระจายสู่กองทุนหมู่บ้าน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน หรือ
องค์กรอื่น ๆ ในลักษณะคล้าย ๆ กัน ซึ่งทำกันเป็นขบวนการ ขยายใหญ่โตเป็นลูกโซ่
นายเรืองชัย บุญญานันต์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับ
เรื่องนี้มาก โดยเปิดเผยว่าเรื่องนี้้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และกรมตรวจบัญชี-
สหกรณ์ เคยออกเอกสารเตือนภัยมาแล้วอย่างน้อย 2 ฉบับ ในปี 2546-2547 จนกระทั่งปี
2549 - 2550 ได้รับข้อมูลการจัดหาปุ๋ย (แบบตั๋วปุ๋ย) มาจำหน่าย มีการแพร่กระจายจากเดิม
สหกรณ์สู่สหกรณ์ ไปสู่กองทุนหมู่บ้าน, กลุ่มวิสาหกิจชุมชน, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่ มีวงเงินหลายร้อยล้านบาท โดยมีสหกรณ์เป็นแกนกลางในการแพร่
กระจาย จึงค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพื่อให้ได้ข้อมูลถูกต้องชัดเจนจึงได้เร่งให้ดำเนินการศึกษา
แนวทาง และวิธีการจำหน่ายปุ๋ย (แบบตั๋วปุ๋ย) ของสหกรณ์ให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อจะได้
สามารถให้คำแนะนำสหกรณ์ให้ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามหลักสหกรณ์
และเกิดประโยชน์แก่สหกรณ์และสมาชิกมากที่สุด

เส้นทางการจำหน่ายปุ๋ย(แบบตั๋วปุ๋ย) ดังกล่าวข้างต้น ในขั้นต้นพบว่าเป็นวงจรที่จะมี
ผลกระทบกับสหกรณ์ ดังนี้
สหกรณ์ผู้ซื้อ (ที่เป็นแกนกลาง)

ขาดโอกาสลงทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิก และสหกรณ์อย่าง
แท้จริง เนื่องจากลงทุนในปุ๋ยจำนวนมากเกินความต้องการของสมาชิก

รับความเสี่ยงสูง เพราะซื้อสด แต่ขายเชื่อ โดยหวังกำไร แต่เป็นลูกหนี้ค้างชำระ

มีความเสี่ยงสูงกับสัญญาซื้อขายที่สหกรณ์ผู้ซื้อเสียเปรียบผู้ขาย เนื่องจาก
สหกรณ์ซื้อปุ๋ยจำนวนมาก ซึ่งไม่อยู่ในแผนงานประจำปีของสหกรณ์ จึงไม่พร้อมรับมอบปุ๋ย
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการรับมอบสินค้าเป็นตั๋วปุ๋ย และไม่ได้ใช้สิทธิตรวจสอบคุณภาพปุ๋ยที่
ซื้อมา รวมทั้งสหกรณ์ผู้ซื้อมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการที่ต้องไปรับปุ๋ย ณ สถานที่ผู้ขาย
กำหนดในตั๋ว

ไม่คุ้มกับการลงทุน เพราะเสียต้นทุนมาก เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม ดอกเบี้ยจ่าย
เงินรับฝาก ค่าใช้จ่ายติดตามหนี้ และต้นทุนค่าเสียโอกาส

ขาดสภาพคล่อง หรือ ขาดเงินทุนหมุนเวียน เงินลงทุนจมอยู่กับตั๋วปุ๋ย

สมาชิกขาดโอกาสได้รับบริการจากสหกรณ์อย่างแท้จริงเต็มศักยภาพ เนื่องจาก
ไม่มีตัวสินค้าปุ๋ยจำหน่ายที่แท้จริง
สหกรณ์ผู้ฝากเงิน

ขาดโอกาสลงทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิก และสหกรณ์อย่างแท้จริง

สมาชิกขาดโอกาสได้รับบริการจากสหกรณ์อย่างเต็มที่

ผิดหลักสหกรณ์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อประโยชน์แก่สมาชิกที่แท้จริง

ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น หากสหกรณ์จะลงทุนทำธุรกิจ ควรต้องมีการพิจารณา
อย่างละเอียดรอบคอบ ดังนี้
          1. หลักการดำเนินธุรกิจตามหลักสหกรณ์ “โดยสมาชิก เพื่อสมาชิก” เป็นสำคัญ
และยึดแนวปรัชญาหลักเศรษฐกิจพอเพียง
          2. ศึกษาข้อมูลการทำธุรกิจซื้อ-ขายล่วงหน้าอย่างละเอียด เช่น พรบ.สัญญา
ซื้อขายล่วงหน้า
          3. วิเคราะห์ถึงความคุ้มทุนของการลงทุนทุกครั้ง
          4. หลักความเป็นธรรม และโปร่งใส

ที่มา : เพยาว์ กิมปฐม

ข่าว/บทความยอดนิยม

ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด

ข่าว/บทความล่าสุด

	Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
	สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
	วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
	บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
	ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร

	ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2549 (28/03/2550)
	กฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Law)
	“ขนิษฐา มะโนสมบัติ”ครูบัญชีอาสา จังหวัดเชียงรายใช้ศาสตร์พระราชานำทางชีวิต พลิกวิกฤตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
	มิติทางการเงินที่มีผลต่อหนี้สินของสหกรณ์ประมงในประเทศไทย
	สหกรณ์ไทย ...คืนกำไรสู่สมาชิก 80.52 %

	สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
	สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
	สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
	หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
	สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์