รตส. ลงพื้นที่ประเมินแปลงใหญ่ดีเด่นด้านการจัดทำบัญชี ที่เข้ารอบคัดเลือก 1 ใน 3 ของการประกวด วิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรดีเด่น ประเภทรางวัลแปลงใหญ่ดีเด่นด้านการจัดทำบัญชี ปี 2560

สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 5

:::: สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 5 ::::

(จำนวนคนอ่าน548คน)

          เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 นางสาววิภา เจริญศิริสุนทร รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นายสุเทพ ทองบ้านบ่อ ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 5 และคณะกรรมการคัดเลือก ลงพื้นที่ประเมินแปลงใหญ่ดีเด่น ด้านการจัดทำบัญชี ณ โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตำบลสระใคร อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารอบ 1 ใน 3 การประกวดวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรดีเด่น ประเภทรางวัลแปลงใหญ่ดีเด่นด้านการจัดทำบัญชี ปี 2560
            จากการประเมิน พบว่า เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 132 ราย และมีพื้นที่รวม 1,819 ไร่ มีการจัดทำบัญชีครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพทุกรายอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ ทำให้สมาชิกสามารถแยกค่าใช้จ่ายที่จำเป็น และค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยออกจากกัน เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน ด้านบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ มีการจดบันทึกบัญชีต้นทุนอาชีพข้าว ตั้งแต่เริ่มฤดูกาลผลิตจนถึงเก็บเกี่ยว แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ถึงต้นทุนการผลิต พบว่าการปลูกข้าวของสมาชิกมีต้นทุนสูงเนื่องจากมีการซื้อปุ๋ย และสารเคมีต่าง ๆ เกษตรกรจึงลดการใช้สารเคมี หันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์มากขึ้น ด้วยการปรับปรุงดินซึ่งใช้วิธีการไถกลบตอซังข้าว ปลูกปอเทือง เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งเกษตรกรมีการผลิตน้ำหมักชีวภาพขึ้นใช้เอง ผลิตน้ำส้มควันไม้เพื่อกำจัดแมลง และทำไดโตโคม่าเพื่อกำจัดเชื้อราในต้นข้าว ทำให้ลำต้นของข้าวแข็งแรงปลอดโรค ส่งผลให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิม 15% เป็น 22% และลดต้นทุนการผลิต จากเดิม 35% เป็น 22% และมีการนำนวัตกรรมเครื่องหยอดข้าวมาใช้ในการดำนาแทนการใช้แรงงานของคน ทำให้ลดต้นทุนด้านแรงงาน จาก 600 บาท ถึง 800 บาทต่อไร่ เป็น 200 บาทต่อไร่ ผลจากการจดบันทึกบัญชี และมีการจัดการแปลงด้วยการจดบันทึกบริหารจัดการระยะเวลาของการปลูกข้าว และเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวทำให้ข้าวอ่อนนุ่ม มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน รวมทั้งช่วยให้เกษตรกรสามารถวางแผนการผลิต จัดหาช่องทางการจำหน่าย ที่สร้างรายได้แก่เกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
            นางบังอร สิงหาพรม 1 ในเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวถึงประโยชน์ที่ได้รับหลังจากการเข้าร่วมโครงการฯ ว่าแต่เดิมการทำนา นั้น ทำนาด้วยวิธีการปักดำ ซึ่งใช้ระยะเวลาทำนาเป็นเวลานาน และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้น้อยมาก ค่าแรงในการปักดำมีจำนวนสูง เมื่อเข้าร่วมในโครงการฯ แล้ว ได้รับความรู้จากหน่วยงานบูรณาการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำให้มีความรู้ สามารถจัดการแปลงที่ดี และสิ่งที่สำคัญที่สุดจะต้องมีการจดบันทึกบัญชีทุกวันจะได้รู้ความเคลื่อนไหวในการผลิตในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต